รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางกับพลังแบตเตอรี่ เพราะเมื่อต้องเดินทางไกลอาจเกิดเหตุกระแสไฟจากแบตเตอรี่หมดกลางทางทั้งที่ยังไม่ถึงจุดหมาย ทางเดียวที่จะทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้นคือทำ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าเชื่อถือ เพื่อศึกษาบริการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับพิจารณาก่อนซื้อ ว่ามีความต่างจากรถยนต์ทั่วไปอย่างไรและเปรียบเทียบพิจารณาข้อดีข้อเสียประกอบกัน
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้รับความนิยมในหมู่รถทั่วไปสูงสุด
สำหรับประกันภัยประเภทนี้จะคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นรถชนรถหรือรถชนกับอะไรก็ตาม สามารถขอเคลมเพื่อซ่อมแซมได้ ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเช่นนี้จึงทำให้หลายคนเลือกทำติดรถไว้และยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ดังนี้
ไม่ใช่แค่ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของเจ้าของรถที่เสียหายเท่านั้น รถของคู่กรณีทางประกันก็รับผิดชอบ และไม่ใช่แค่เท่านี้ หากเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ประกันพร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทน
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทำให้รถได้รับความเสียหายก็คุ้มครองเช่นกัน อาทิ น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, ลูกเห็บ, และลมพายุ รวมไปถึงไฟไหม้และรถสูญหาย
ประกันภัยชั้น 1 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าบริการที่ตอบโจทย์การใช้งาน
อย่างที่เรากล่าวไปตั้งแต่ต้นว่ารถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อาจไม่สะดวกต่อการใช้เดินทางไกลมากนัก เพราะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ ซึ่งหากวางแผนไม่ดีจะไม่สามารถไปในระยะไกลได้ แต่เพื่อความอุ่นใจ การทำประกันจะช่วยให้การขับรถประเภทนี้สะดวกและอุ่นใจมากขึ้น เพราะมีบริการฉุกเฉินมากมาย ซึ่งต่างจากประกันภัยรถยนต์ทั่วไป
บริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง หากรถดับกลางทางขณะเดินทางไกล สามารถขอความช่วยเหลือไปยังบริษัทประกันภัยได้ โดยจะมีการส่งรถยกมาในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยไม่ต้องสำรองจ่ายใด ๆ
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า มีบริการรถยกเพื่อพารถของคุณไปยังสถานีจ่ายไฟหรือชาร์จแบตในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยใน 1 ปีจะต้องเรียกใช้บริการไม่เกิน 2 ครั้ง จึงจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม
หากพบว่ารถที่คุณใช้งานอยู่เป็นประจำและซื้อ ประกันรถ ev เกิดปัญหา ทางบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลตรวจสอบและแก้ปัญหาให้ยังที่เกิดเหตุ จะจ่ายตามจริง 1,500 บาท/ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
เมื่อทำ ประกันรถไฟฟ้า กับ DirectAsia แม้ว่าจะเกิดปัญหาเล็กน้อย เช่น ประตูรถล็อก กุญแจหาย ก็มีบริการรถยกพาคุณไปยังศูนย์บริการ เพื่อรับการแก้ปัญหา ค่าใช้จ่ายตามจริง
หากรถเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถขับต่อได้ แล้วมีการนำเข้าซ่อม จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง จ่ายตามจริงไม่เกิน 4,000 บาท/ครั้ง คุ้มครองไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี พร้อมบริการขนส่งสาธารณะและค่าที่พักไม่เกิน 2 คืนติดต่อกัน
จะเห็นได้ว่าประกันทั้งสองรูปแบบมีความแตกต่างกันสิ้นเชิง สำหรับรถยนต์ทั่วไปจะคุ้มครองในเรื่องของอุบัติเหตุเท่านั้น สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคุ้มครองอุบัติเหตุเช่นกัน แต่จะมีเพิ่มเติมไปถึงเรื่องการใช้งาน เหตุสุดวิสัยและบริการฉุกเฉินที่สแตนบายด์ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นข้อดีที่น่าสนใจ ในเรื่องของข้อเสียถ้าไม่ใช่เรื่องราคาเบี้ยที่สูงก็ดูจะไม่มีอะไร และถ้าหากจ่ายแพงแต่ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
ถ้ารถเสียกลางทางทำอย่างไรดี? โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ คนที่เพิ่งซื้อรถ หรือคนที่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์รถเสียกลางทางมาก่อน การเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดรถเสียกลางทางเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ คำถาม ถ้ารถเสียกลางทาง จากDirectAsia ได้รวมวิธีรับมือกรณีเกิดรถเสียกลางทาง พร้อมเบอร์ฉุกเฉินที่คุณควรบันทึกไว้
รวม 5 ทริคถ้ารถเสียกลางทาง จากDirectAsia
ตั้งสติและเปิดไฟฉุกเฉินทันที
ย้ายรถไปจอดข้างทางหรือไหล่ทาง
ตรวจสอบสภาพรถยนต์เบื้องต้น เช่น ยาง น้ำมัน
โทรเเจ้งประกันภัยรถยนต์และติดต่อตำรวจทางหลวง
ติดต่อศูนย์บริการรถยกรกณีที่ไม่สามารถขับต่อไปได้
เบอร์โทรติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่อ รถเสียกลางทาง มีดังนี้
แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร. 191 หรือ 1190
ตำรวจทางหลวงหรืออุบัติเหตุบนทางหลวง โทร. 1193
สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586
จส. 100 โทร. 1137
กรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
สายด่วนประกันภัย โทร. 1186
สายด่วนอุบัติเหตุ โทร. 02-711-9161 หรือ 02-711-9162
โทรแจ้งบริษัทประกัน หรือบริษัทรถ เพื่อขอความช่วยเหลือ
ที่มาข้อมูล
https://www.directasia.co.th/ev-car-insurance/
https://www.directasia.co.th/blog/car/ev-car-insurance/
https://www.directasia.co.th/car-insurance-type1/
รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางกับพลังแบตเตอรี่ เพราะเมื่อต้องเดินทางไกลอาจเกิดเหตุกระแสไฟจากแบตเตอรี่หมดกลางทางทั้งที่ยังไม่ถึงจุดหมาย ทางเดียวที่จะทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้นคือทำ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าเชื่อถือ เพื่อศึกษาบริการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับพิจารณาก่อนซื้อ ว่ามีความต่างจากรถยนต์ทั่วไปอย่างไรและเปรียบเทียบพิจารณาข้อดีข้อเสียประกอบกัน
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้รับความนิยมในหมู่รถทั่วไปสูงสุด
สำหรับประกันภัยประเภทนี้จะคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นรถชนรถหรือรถชนกับอะไรก็ตาม สามารถขอเคลมเพื่อซ่อมแซมได้ ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเช่นนี้จึงทำให้หลายคนเลือกทำติดรถไว้และยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ดังนี้
ไม่ใช่แค่ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของเจ้าของรถที่เสียหายเท่านั้น รถของคู่กรณีทางประกันก็รับผิดชอบ และไม่ใช่แค่เท่านี้ หากเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ประกันพร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทน
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทำให้รถได้รับความเสียหายก็คุ้มครองเช่นกัน อาทิ น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, ลูกเห็บ, และลมพายุ รวมไปถึงไฟไหม้และรถสูญหาย
ประกันภัยชั้น 1 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าบริการที่ตอบโจทย์การใช้งาน
อย่างที่เรากล่าวไปตั้งแต่ต้นว่ารถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อาจไม่สะดวกต่อการใช้เดินทางไกลมากนัก เพราะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ ซึ่งหากวางแผนไม่ดีจะไม่สามารถไปในระยะไกลได้ แต่เพื่อความอุ่นใจ การทำประกันจะช่วยให้การขับรถประเภทนี้สะดวกและอุ่นใจมากขึ้น เพราะมีบริการฉุกเฉินมากมาย ซึ่งต่างจากประกันภัยรถยนต์ทั่วไป
บริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง หากรถดับกลางทางขณะเดินทางไกล สามารถขอความช่วยเหลือไปยังบริษัทประกันภัยได้ โดยจะมีการส่งรถยกมาในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยไม่ต้องสำรองจ่ายใด ๆ
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า มีบริการรถยกเพื่อพารถของคุณไปยังสถานีจ่ายไฟหรือชาร์จแบตในระยะทางไม่เกิน 100 กิโลเมตร โดยใน 1 ปีจะต้องเรียกใช้บริการไม่เกิน 2 ครั้ง จึงจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม
หากพบว่ารถที่คุณใช้งานอยู่เป็นประจำและซื้อ ประกันรถ ev เกิดปัญหา ทางบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลตรวจสอบและแก้ปัญหาให้ยังที่เกิดเหตุ จะจ่ายตามจริง 1,500 บาท/ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
เมื่อทำ ประกันรถไฟฟ้า กับ DirectAsia แม้ว่าจะเกิดปัญหาเล็กน้อย เช่น ประตูรถล็อก กุญแจหาย ก็มีบริการรถยกพาคุณไปยังศูนย์บริการ เพื่อรับการแก้ปัญหา ค่าใช้จ่ายตามจริง
หากรถเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถขับต่อได้ แล้วมีการนำเข้าซ่อม จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง จ่ายตามจริงไม่เกิน 4,000 บาท/ครั้ง คุ้มครองไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี พร้อมบริการขนส่งสาธารณะและค่าที่พักไม่เกิน 2 คืนติดต่อกัน
จะเห็นได้ว่าประกันทั้งสองรูปแบบมีความแตกต่างกันสิ้นเชิง สำหรับรถยนต์ทั่วไปจะคุ้มครองในเรื่องของอุบัติเหตุเท่านั้น สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคุ้มครองอุบัติเหตุเช่นกัน แต่จะมีเพิ่มเติมไปถึงเรื่องการใช้งาน เหตุสุดวิสัยและบริการฉุกเฉินที่สแตนบายด์ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นข้อดีที่น่าสนใจ ในเรื่องของข้อเสียถ้าไม่ใช่เรื่องราคาเบี้ยที่สูงก็ดูจะไม่มีอะไร และถ้าหากจ่ายแพงแต่ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
ถ้ารถเสียกลางทางทำอย่างไรดี? โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับ คนที่เพิ่งซื้อรถ หรือคนที่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์รถเสียกลางทางมาก่อน การเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดรถเสียกลางทางเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ คำถาม ถ้ารถเสียกลางทาง จากDirectAsia ได้รวมวิธีรับมือกรณีเกิดรถเสียกลางทาง พร้อมเบอร์ฉุกเฉินที่คุณควรบันทึกไว้
รวม 5 ทริคถ้ารถเสียกลางทาง จากDirectAsia
- ตั้งสติและเปิดไฟฉุกเฉินทันที
- ย้ายรถไปจอดข้างทางหรือไหล่ทาง
- ตรวจสอบสภาพรถยนต์เบื้องต้น เช่น ยาง น้ำมัน
- โทรเเจ้งประกันภัยรถยนต์และติดต่อตำรวจทางหลวง
- ติดต่อศูนย์บริการรถยกรกณีที่ไม่สามารถขับต่อไปได้
เบอร์โทรติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่อ รถเสียกลางทาง มีดังนี้
- แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร. 191 หรือ 1190
- ตำรวจทางหลวงหรืออุบัติเหตุบนทางหลวง โทร. 1193
- สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586
- จส. 100 โทร. 1137
- กรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
- สายด่วนประกันภัย โทร. 1186
- สายด่วนอุบัติเหตุ โทร. 02-711-9161 หรือ 02-711-9162
- โทรแจ้งบริษัทประกัน หรือบริษัทรถ เพื่อขอความช่วยเหลือ
ที่มาข้อมูล
https://www.directasia.co.th/ev-car-insurance/
https://www.directasia.co.th/blog/car/ev-car-insurance/
https://www.directasia.co.th/car-insurance-type1/